ราคาทองคําวานนี้ ปิดปรับตัวลดลง 13.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั่วโลก รวมไปถึงทัศนะเชิงบวกเกี่ยวกับสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ เป็นปัจจัยหลักที่กดดันสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้าง ทั้งเยน, ทองคําและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ นั้นเป็นปัจจัยหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ให้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์จนเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคําเพิ่มเติมประกอบกับวานนี้ สกุลเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าจากการร่วงลงของค่าเงินยูโรอันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB หรือ DEPOSIT RATE และอาจประกาศรื้อฟื้นมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีกครั้งในการประชุมที่กําลังจะเสร็จสิ้นลงในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโรส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคํา อย่างไรก็ดี เมื่อราคาทองคําอ่อนตัวลงก็มักจะมีแรงช้อนซื้อสลับเข้ามา ส่วนหนึ่งเพราะนักลงทุนบางส่วนยังคงไม่แน่ใจนักว่า ท้ายที่สุดแล้วการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่มีกําหนดจะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนหน้าจะมีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมใดๆหรือไม่ ทําให้ราคาทองคํายังคงทรงตัวในกรอบ สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อในภาคการผลิต ที่มา ylgbullion.co.th
Tag: ทองคำ
ข่าวราคาทองคำ 25 มีนาคม 2562 (ภาคบ่าย)
ราคาทองคําช่วงเช้าวันนี้ ขยับขึ้น ได้รับแรงหนุนหลักจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วง ลงกว่า 400 จุดในวันศุกร์ที่ผ่านมา กดดันตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เช้านี้ ราคาทองร่วงตามราว 1-3% ขณะที่ตลาดพันธบัตรสหรัฐได้รับสัญญาณเตือนอย่างชัดเจนถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 3 เดือนและ 10 ปีร่วงลงตํ่ากว่า 0 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550 เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาว ท่ามกลางแรงกดดันการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังไม่ยุติ รวมถึงความเสี่ยง Brexit ที่อาจกระทบในเชิงลบต่อเศรษฐกิจเช่นกัน แม้ล่าสุด EU อนุมัติให้มีการขยายระยะเวลาการแยกตัวออกไปเป็นวันที่ 22 พ.ค. หากรัฐสภาอังกฤษอนุมัติข้อตกลงที่ทําไว้กับEU ก่อนหน้านี้ แต่หากรัฐสภาอังกฤษไม่อนุมัติข้อตกลงดังกล่าว EU จะขยายระยะเวลาออกไปเพียงวันที่ 12 เม.ย. เหล่านี้ ล้วนกดดันการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงเม็ดเงินจึงโยกเข้าสู่ตลาดทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ดังนั้นแนะนําติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อชี้นําราคาทองคําเพิ่มเติม ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า หากราคาทองคําทดสอบแนวต้านที่ 1,317-1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทํากําไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคํามีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาทองไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้ นอยู่ที่ 1,304-1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่ายังมีโอกาสดีดตัวขึ้นได้ระยะสั้น แนะนํากลยุทธ์ เน้นการลงทุนระยะสั้น โดยแบ่งทองคําออกขายหากราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่านโซนบริเวณแนวต้าน 1,317-1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ อาจทยอยซื้อคืนเพื่อทํากําไรบางส่วน หากราคาทองคําอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับ 1,304-1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามหากราคาผ่าน 1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์สามารถชะลอการขายออกไป ที่มา ylgbullion.co.th
>> ราคาทองวันนี้ <<
ข่าวราคาทองคำ 06 มีนาคม 2562 (ภาคบ่าย)
ราคาทองคําช่วงเช้าทรงตัวไม่ไกลจากระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ โดยได้รับแรงกดดันจากดัชนี ดอลลาร์ที่เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ขณะที่การเจรจา Brexit ระหว่างอูยและอังกฤษ เมื่อวานนี้ที่ยังไม่มีความคืบหน้า โดยเจ้าหน้าที่ EU ระบุว่า การเจรจาดังกล่าวดำเนินไปไม่ดีนักขณะที่การหารือจะมีขึ้นอีกครั้งในวันนี้ปัจจัยดังกล่าวกดดันสกุลเงินยูโรและปอนด์ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์และกดดันราคาทองอย่างไรก็ตามราคาทองวันนี้เริ่มมีการฟื้นตัวขึ้นบ้าง เนื่องจากดอลลาร์ชะลอการแข็งค่า หลังความเห็นของนายอิริค โรเซ็นเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวว่า “คณะกรรมการนโยบายการเงินเฟดอาจคงดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมอีกหลายครั้ง ก่อนที่จะมีความชัดเจนว่า ความเสี่ยงต่างๆนั้นส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหรือไม่ เพียงใด ซึ่งเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่เฟดจะอดทน และให้เวลานี้ประเมินความเสี่ยงต่างๆ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดอาจคงนโยบายการเงินในการประชุม 2 ครั้งถัดไปของเฟดในช่วงกลางเดือนมี.ค.และปลายเม.ย. ซึ่งการประชุมเฟดี่่จะถึงนี้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 มี.ค. ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า ราคาขยับขึ้นแต่ก็มีแรงขายทํากําไรสลับออกมา ขณะที่ความผันผวนของราคาทองวันนี้ลดลงจากช่วงก่อนหน้า ซึ่งหากราคาทองวันนี้ไม่สามารถยืนเหนือ 1,294 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้มีผลให้ราคาปรับตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง โดยมีโอกาสเกิดแรงขายกลับลงมาโดยมีแนวรับในโซน 1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์แนะนํากลยุทธ์การลงทุน เน้นเก็งกําไรระยะสั้นได้โดยแนะนําให้นักลงทุนรอจังหวะขายทำกําไรหากราคาทองดีดตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,294-1,303 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่มา ylgbullion.co.th
>> ราคาทองวันนี้ <<